เรื่องย่อมีอยู่ว่า ณ ลานจอดรถโรงเรียน มีใครก็ไม่รู้แอบไปพ่นสเปรย์วาดรูปจู๋ใส่รถของครูทั้ง 27 คัน
ทั้งครูบาอาจารย์และนักเรียนทั้งหลายต่างเห็นฟ้องต้องกัน ว่านี่เป็นฝีมือนักเรียนตัวแสบประจำโรงเรียนแน่นอน ต้องไล่ออกทันที
แต่สองคู่หูสมาชิกชมรมโสตทัศนศึกษาไม่คิดเช่นนั้น เกิดความแคลงใจสงสัย จึงทำสารคดีเพื่อตามหาความจริงของเรื่องนี้ขึ้นมา
พล็อทเรื่องฟังดูงี่เง่า ก็แค่เด็กไม่ดีคนหนึ่งโดนไล่ออกจะไปใส่ใจทำไม แต่สารคดีทำกันอย่างจริงจังเล่นใหญ่มาก
เพราะจริงจังมันเลยดูตลกขำๆ ทำเรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่ ไอ้เด็กพวกนี้มันช่างทุ่มเทกับเรื่องไร้สาระได้บ้าบอดี
นั่นเป็นแค่ความรู้สึกช่วงครึ่งแรกของเรื่อง แต่ช่วงครึ่งหลังนี่เล่นเอาซะจุกอกหนักอึ้งพูดไม่ออก
เป็นความงี่เง่าที่จิกกัดสังคมได้อย่างเจ็บแสบ
ซีรีย์นี้มีทั้งหมด 8 ตอน ตอนละ 30 นาที ตอนดูครั้งแรกกะดูเล่นๆ ไม่คิดว่าตัวเองจะดูได้จนจบ
เพราะนึกว่าเป็นหนังวัยรุ่นตลกธรรมดา ยิ่งพล็อทเรื่องแค่นั้นคงไม่มีอะไรให้ชวนติดตามนัก
แต่ผิดคาดกลับได้ประเด็นให้คิดต่อมากมาย
การตัดสินใครจากพฤติกรรมในอดีต มันเป็นตรรกะพื้นฐาน เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะให้ใครมาตัดสินตัวเรา
เพราะทุกคนมีทะเบียนประวัติ มีฐานข้อมูลชีวิตจัดเก็บอยู่ในสังคมรอบข้างโดยอัตโนมัติ
หากเกิดเรื่องราวใดขึ้นมา คนที่เข้าข่ายก็จะโดนเพ่งเล็งขึ้นมาเป็นอันดับแรกเพราะวีรกรรมในอดีตมันฟ้อง
แต่ได้กระทำการลงไปจริงไหม นั่นเป็นอีกเรื่องที่ต้องสืบสวนต่อไป
เช่น กรณีตัวเอกของ American Vandal มีประวัติเป็นเด็กแสบมีเรื่องกับครูบ่อยๆ ชอบวาดรูปจู๋ในห้องเรียน
ไม่แปลกเลยที่จะโดนเป็นผู้ต้องสงสัยคดีพ่นสเปรย์วาดรูปจู๋รถครู
การส่งเสียงคัดค้านว่าไม่ได้ทำ เป็นสิทธิที่ทำได้ แต่มันช่วยอะไรไม่ได้ ถ้าคุณทำตัวแบบนั้นมาตลอดจริง
ยิ่งถ้าเคยก่อวีรกรรมหนักหน่วงมีพฤติกรรมชัดเจน ยิ่งส่งผลให้คำพิพากษาจากสังคมมาไวก่อนที่จะได้สืบสาวราวเรื่องเสียอีก
ยอมรับเถิดสังคมที่ให้น้ำหนักข้อเท็จจริงหนักกว่าประวัติพฤติกรรมบุคคล สังคมแบบนั้นถึงมีอยู่จริงก็เป็นส่วนน้อย แทบจะเป็นสังคมในอุดมคติ
แต่ถ้าหากอยากเป็นตัวของตัวเอง ก็ต้องพิจารณาถึงตัวตนของตัวเอง ในมุมมองของสังคมแล้ว ตัวตนที่เราเป็นอยู่นั้น มันอยู่ในรูปแบบที่ดีหรือไม่ดี
ถ้าไม่ดีก็ต้องพิจารณาต่อไปว่าทำไมถึงไม่ดี ซึ่งมันมีหลักง่ายๆในการพิจารณา ดูแค่ว่าสิ่งที่ตันตนเราเป็นอยู่นั้นได้เบียดเบียนผู้อื่นหรือไม่
ถ้าเบียดเบียนนั่นแหละคือไม่ดี แต่ถ้าไม่เบียดเบียนใครแต่คนอื่นว่าไม่ดี กรณีนี้น่าจะเป็นปัญหาที่มุมมองของพวกเขาเหล่านั้นมากกว่า
เช่น แก๊งค์ของตัวเอก American Vandal มีพฤติกรรมชอบแกล้งคน บางครั้งก็เล่นแรงจนไม่น่าให้อภัย นั่นแหละเรียกว่าเบียดเบียนผู้อื่น
เนื้อแท้อาจไม่ใช่คนไม่ดี ทำไปโดยความคึกคะนอง พอถึงจุดหนึ่งเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่อาจคิดได้ กลับตัวเป็นคนดี
แต่ส่วนใหญ่ไปไม่ถึงจุดนั้น สุดท้ายมันมักจะมาจบที่ว่า ถึงแม้นั่นมันไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของฉัน
แต่ในเมื่อสังคมพิพากษาให้ฉันเป็นแบบนั้น ฉันก็จะเป็นแบบนั้นให้ดู.
เครดิตรูปภาพประกอบ : IMDb