วันอาทิตย์ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2561

Altered Carbon

อดีตทหารฝ่ายกบฎถูกตัดสินจำคุกจองจับจิต  ผ่านมา  250 ปีเขาถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมาเพื่อไขปริศนาคดีฆาตกรรมมหาเศรษฐี

Altered Carbon  เป็นผลงาน Original Series เรื่องล่าสุดของ NETFLIX  ออกฉายเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีจำนวนทั้งสิ้น 10 ตอนจบ
สร้างมาจากนิยายวิทยาศาสตร์ของ Richard K. Morgan เป็นเรืองราวโลกอนาคตในอีก 350 ปีข้างหน้า
ยุคที่มนุษย์สามารถบันทึกจิตวิญญาณตัวเองแปลงเป็นข้อมูลดิจิตอล  และสามารถนำข้อมูลนั้นไปใส่ในกายหยาบร่างไหนก็ได้ 
โดยไม่จำกัดเพศ ไม่จำกัดวัย ไม่จำกัดอายุ จะทำกี่ครั้งก็ได้ถ้าข้อมูลนั้นไม่โดนทำลายให้ราบคาบชนิดกู้คืนไม่ได้
ดังนั้นถ้าใครรวยมีกำลังทรัพย์มากพอสามารถหาร่างใหม่และสำรองข้อมูลตัวเองได้เรื่อยๆ แทบจะอยู่ยาวมีชีวิตเป็นอมตะกันเลยทีเดียว
คอนเซปท์คร่าวๆก็จะประมาณนี้  ช่วงเริ่มต้นดูอาจรู้สึกมึนกับคำศัพท์เฉพาะ เช่น Stack, Sleeve ,Needle Cast  วนไปวนมา มันคืออะไรว้า ? 
สองตอนแรกต้องตั้งใจดูสักหน่อยแต่ทำความเข้าใจได้ไม่ยาก ไม่อธิบายนะครับเพราะผมขี้เกียจเขียน และถือว่าเป็นการทำให้เสียอรรถรสด้วย
โดยส่วนตัวมองว่าเสน่ห์อย่างหนึ่งของหนังไซไฟแนวโลกอนาคต คือคนดูต้องค่อยๆทำความเข้าใจบริบทด้วยตัวเอง
ในอนาคตนอกจากเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้น(หรือตกต่ำลง)  สภาพแวดล้อมเปลี่ยนแปลงเป็นเช่นไร
ผู้คนมีแนวคิด มีมุมมอง มีกฎเกณฑ์อะไรบ้างที่แตกต่างจากยุคปัจจุบัน
นิยาย Altered Carbon วางจำหน่ายปี 2002  พิจารณาดูจากปีเกิดและช่วงอายุของผู้เขียนแล้วก็พอเข้าใจ
ว่าทำไมเขาถึงจินตนาการโลกอนาคตมาในรูปแบบ Dystopia ,Cyberpunk เช่นนั้น มันเป็นแนวคิดร่วมสมัย 
ผมเข้าใจดีเพราะเติบโตมากับความบันเทิงสไตล์ Cyberpunk  ผ่านทางหนัง การ์ตูน นิยาย เกม
ดังนั้นกับประเด็นที่ว่าจิตคืออะไร ตัวตนคืออะไร ความเป็นมนุษย์คืออะไร จึงเป็นคำถามที่ผมเจอมาเจอเอียน
อ่อนล้าและรู้สึกเบื่อหน่ายกับการตีความ  ด้วยเหตุนี้ผมจึงดู Altered Carbon ในแง่ความบันเทิงอย่างเดียวมากกว่า
(คงเพราะความอ่อนล้านี่ล่ะมั้ง ที่ทำให้ผมดู Blade Runner 2049 อย่างเฉยชา ทั้งที่มันเป็นหนังภาคต่อที่รอคอยมาแสนนาน)     
ก่อนจะมาดู  เห็นข่าวผ่านตามีกระแสอวยนักแสดงหญิงตัวละครสำคัญ  ไม่รู้ว่าเป็นแผนการตลาดโปรโมทหนังหรือผมดูหนังไม่เป็นเอง
ไม่ได้รู้สึกว่าเธอคนนั้นจะเล่นดีในระดับน่าชื่นชมเท่าไรนัก ก็เล่นดีนั่นแหละแต่อยู่ในระดับมาตรฐาน
นักแสดงที่เล่นดีจริงๆจนผมประทับใจ กลับเป็นพวกตัวละครรองเสียมากกว่า ควรยกเสียงปรบมือให้พวกเขาเหล่านั้น
ตัวละครไหนที่ต้องเปลี่ยนร่างบ่อยๆ และทุกร่างสามารถทำให้คนดูเชื่อว่าเป็นตัวละครเดียวกัน  นั่นแหละคือความยากของบท
และเป็นความท้าทายของทีมงานว่ามีฝีมือจัดการได้ดีเพียงใด   มองว่าจุดนี้น่าชื่นชมมากกว่าเสียอีก...                                            
ถึงแม้สาระของ Altered Carbon จะไม่มีความสดใหม่สำหรับผม แต่ในแง่ความเพลิดเพลินถือว่าสอบผ่านได้คะแนนดีเลยทีเดียว
ตัวหนังติดเรทมีความรุนแรงพอสมควร  ผู้ปกครองควรพิจารณาก่อนให้เด็กและเยาวชนดู

เครดิตรูปภาพประกอบ : https://www.imdb.com/